Saturday, September 7, 2013

รองเท้านารีเหลืองปราจีน Paphiopedilum concolor

    
   ในบรรดากล้วยไม้รองเท้านารีที่สายพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่มากมายนั้น paph. concolor หรือรองเท้านารีเหลืองปราจีนเป็นไม้ที่เลี้ยงง่ายที่สุด ออกดอกง่ายที่สุด อดทนต่อสภาพอากาศได้ดี สามารถปลูกเลี้ยงให้เจริญเติบโตได้ในทุกภูมิภาค เมื่อต้นของเค้าโตพอและมีสภาพที่สมบรูณ์สามารถออกดอกได้ทันทีในระยะเวลาตลอดทั้งปีต่างจากรองเท้านารีบางชนิดที่ต้องรอให้ถึงช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมของเค้า เรียกได้ว่าเป็นไม้ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังสนใจที่จะปลูกเลี้ยงรองเท้านารีเป็นอย่างยิ่ง ถ้าใครกำลังสนใจที่จะลองปลูกลองเลี้ยงรองเท้านารีเริ่มที่รองเท้านารีเหลืองปราจีนก่อนเลยนี่แหละครับน่าจะเหมาะ ตัวผมเองเริ่มต้นก็เริ่มจากรองเท้านารีชนิดนี้แหละจากนั้นก็ค่อยๆ หาสายพันธุ์อื่นมาเลี้ยงมาศึกษาเป็นลำดับขั้นขึ้นไปเรื่อยๆ



    ในส่วนของการปลูกเลี้ยงรองเท้านารีเหลืองปราจีนนั้นจริงๆ รองเท้านารีแทบทุกสายพันธุ์ที่ผมเลี้ยงปัจจุบันผมเลี้ยงอยู่ใต้หลังคาพยายามไม่ให้เค้าโดนฝน เพราะรองเท้านารีเป็นไม้ที่ค่อนข้างมีปัญหากับเรื่องของความชื้น คือถ้าเราเลี้ยงแบบไม่มีหลังคาในหน้าฝนเวลาที่มีฝนตกติดๆ กันหลายๆ วันรองเท้านารีจะมีปัญหาเกี่บวกับการเน่าจากโรคเชื้อรา หรือแบคทีเรีย ซึ่งจะเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่ที่อาจจะส่งผลให้รองเท้านารีที่เราเลี้ยงไว้ตายแบบยกกอได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็วแบบยากจะช่วยเลยด้วยถึงช่วยให้รอดได้แต่กว่าต้นจะฟื้นกลับมาเท้าเดิมอีกครั้งก็ต้องใช้เวลานานมากจนเบื่อไปเลยทีเดียวเพราะฉะนั้นผมเลยวางจุดเลี้ยงของเค้าให้อยู่ภายใต้หลังคากันฝนเพื่อลดอัตราการเกิดโรค แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ใช่ว่าอยู่ใต้หลังคาไม่โดนฝนแล้วจะไม่เน่าเลยนะครับที่บ้านก็มีเน่าให้ได้เห็นอยู่บ้างเหมือนกันเพราะรองเท้านารีนั้นเป็นไม้ที่มักจะมีปัญหาแบบฉับพลันหาสาเหตุได้ยากเกิดขึ้นบ่อย ซึ่งบางทีเราก็ว่าเราป้องกันเราดูแลดีแล้วแต่จู่ๆ เค้าก็เน่าเฉยเลยแบบนี้ก็มีให้เห็นพอสมควร แต่สำหรับรองเท้านารีเหลืองปราจีนจะมีอัตราการเน่าที่น้อยกว่ารองเท้านารีสายพันธุ์อื่นๆ มาก ถึงจะมีปัญหาแต่ถ้าเทียบกับสายพันธุ์อื่นปัญหาเค้าเกิดขึ้นน้อยกว่าหลายเท่าเลี้ยงแล้วเบาใจกว่า

  ในส่วนของวัสดุปลูก ผมใช้หินภูเขาไฟเป็นหลักครับ เมื่อก่อนผมเคยใช้วัสดุปลูกมาหลายชนิดเหมือนกันแต่ตอนหลังก็เน้นมาที่หินภูเขาไฟนี่แหละ ข้อดีคือ ราคาไม่สูงเกินไป ใช้ได้นานไม่ผุพัง ระบายนํ้าได้ดี เหมาะสมกับสถานที่ปลูกที่บ้านของผมซึ่งเป็นสถานที่ๆ ค่อนข้างจะร่มมีแสงแดดส่องไม่แรงและช่วงระยะเวลาที่มีแดดต่อวันนั้นสั้นวันนึงมีแดดส่องถึงเฉพาะช่วงเช้าถึงสายๆ เท่านั้นอากาศก็เลยไม่ค่อยแห้งมากหินภูเขาไฟจึงค่อนข้าเหมาะเพราะถ้าไปใช้พวกกาบมะพร้าวหรือปลูกกับดินใบไม้จะมีปัญหาเรื่องความชื้นเรื่องโรคได้ง่าย หินภูเขาไฟจะแห้งเร็วกว่าความชื้นบ่อเกิดของโรคเชื้อราจึงน้อยกว่าในความคิดของผมนะ

  ในส่วนของการให้ปุ๋ยนั้นเนื่องจากความรู้เรื่องปุ๋ยสำหรับรองเท้านารีผมยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญสักเท่าไรก็เลยไม่รู้จะไปเน้นหนักตรงไหนเลยใช้เป็นพวกปุ๋ยนํ้าสำหรับกล้วยไม้ที่เค้าขายกันตามร้านขายอุปกรณ์การเกษตรนี่แหละเลือกแบบปุ๋ยนํ้าเร่งดอกสำหรับกล้วยไม้เอามาผสมนํ้าฉีดเค้าสัปดาห์ละครั้ง ผลที่ออกมาผมว่าก็โอเคอยู่นะเค้าก็เติบโตดีพอสมควร ด้วยความที่รองเท้านารีเหลืองปราจีนออกดอกง่ายด้วยมั้งเค้าก็เลยมีดอกออกมาตลอดแบบไม่เรื่องมากเท่าไร

  ศัตรูของรองเท้านารีที่ต้องระวังนอกจากพวกโรคต่างๆ แล้วนั้น เพลียะไฟ ไรแดง ก็เป็นปัญหาสำคัญ แต่ผมยังไม่ค่อยจะเจอปัญหานี้สักเท่าไรเลยยังบอกเล่าอะไรไม่ได้มากเพราะยังไม่โดนจังๆ สักที ก็ได้แต่ระวังป้องกันฉีดยากันไว้เดือนสองเดือนครั้งประมาณนั้นครับ
  ในส่วนของเรื่องราวอื่นๆ ของรองเท้านารียังมีอีกเยอะแยะมากมายตัวผมเองความรู้เกี่ยวกับรองเท้านารีก็ยังไม่มากนักแต่ก็พยายามที่จะศึกษาเรื่องราวของเค้าอยู่เรื่อยๆ ซึ่งคงได้มาบอกเล่าเรื่องราวของเค้าต่อไปอีกในอนาคต ตอนนี้ก็ขอเอ่ยถึงรองเท้านารีเหลืองปราจีนเพียงเท่านี้ก่อนก็แล้วกันครับ

  จริงๆ แล้วผมมีถ่ายภาพรองเท้านารีเหลืองปราจีนที่บ้านเก็บเอาไว้หลายต้นเหมือนกันแต่ที่เลือกภาพของดอกนี้มาลงนั้นก็เพราะเป็นต้นที่กำลังบานล่าสุดอยู่ที่บ้านในตอนนี้ถึงแม้ว่าฟอร์มดอกของเค้าอาจจะยังไม่ถึงกับดีโดดเด่นเตะตาสักเท่าไรแต่สดใหม่แน่นอนเพราะถ่ายมาลงกันแบบร้อนๆ ดอกยังไม่ทันโรยกันเลยทีเดียว ที่สำคัญช่อนี้มีสองดอกครับไว้ดอกสองบานเมื่อไรคงจะมีการเอามาลงเพิ่มเติมอีกให้ได้ชมกันอีกเร็วๆ นี้ครับ

No comments :

Post a Comment