Wednesday, September 18, 2013

มะหวด หรือ กำชำ

 
   ด้วยความบังเอิญในระหว่างที่กำลังเดินเล่นอยู่ที่ตลาดต้นไม้แห่งหนึ่งได้เหลือบไปเห็นร้านนึงมีต้นไม้นานาชนิดวางขายหนึ่งในนั้นมีเจ้ากระถางเล็กๆ ปักป้ายชื่อว่าต้นมะหวดรวมอยู่ด้วย สอบถามราคาก็ไม่แพงเท่าไรแต่ทำให้ย้อนคิดกลับไปว่า ที่บ้านเกิดเราเองก็มีต้นมะหวดเหมือนกันนี่หว่าแต่มันเป็นไม้ที่ไม่มีมูลค่าขึ้นอยู่ตามสวนตามทางทั่วๆ ไป มีทั้งต้นเล็กๆ ที่เกิดจากเมล็ดที่หล่นมาเกิดตามพื้นไปจนต้นสูงสามสี่เมตรที่เวลาออกผลก็พลูเต็มต้นคนไม่สนใจปล่อยให้สัตว์เก็บกินไปตามธรรมชาติ ที่เหลือก็ร่วงหล่นหมดไป ใบต้นที่สูงยาวก็เป็นร่มเงาให้หลบคลายร้อนเพียงเท่านั้น



   สำหรับตัวผมนั้นเห็นต้นมะหวดนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เคยเก็บลูกมากินเสียก็บ่อย ลูกเขาอ่อนจะสีเขียวเริ่มแก่จะออกสีแดงๆ แก่จัดสีจะเริ่มดำเก็บลูกดำๆ นั่นแหละมากินกำลังดี รสชาติหวานนิดๆ แต่เสียตรงที่เนื้อมีน้อยนิดเดียวกินยังไงก็ไม่มีทางอิ่มเอาแค่แทะเล่นๆ ขำขำน่ะพอไหว

   มะหวดนั้นเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มะหวดที่บ้านผมนั้นมีอายุค่อนข้างมากบางต้นผมเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ ปัจจุบันต้นสูงก็จริงแต่ลำต้นนั้นไม่ใหญ่วัดคร่าวๆ ความใหญ่ของต้นประมาณแค่ขาเท่านั้นเองแต่อายุของเค้าน่ะน่าจะเกินกว่า 20 ปี แน่ๆ แต่แบบนี้เป็นข้อดีสำหรับการนำมาปลูกประดับเหมือนกันนะเพราะลำต้นที่ไม่ใหญ่ก็ดีตรงไม่กินที่มากแต่ก็ยังสูงให้ร่มเงาได้เหมือนกัน

  ประโยชน์ที่สำคัญสูงสุดของมะหวดก็คือการที่เค้ามีสรรพคุณมีประโยชน์เป็นสมุนไพร ทั้งใบ ผล ราก นำไปใช้ได้ แต่รายละเอียดของสรรพคุณ ผมขอที่จะไม่เอ่ยถึงเพราะกลัวจะไม่แม่นเดี๋ยวจะกลายเป็นมั่วไปเสียเปล่าๆ เอาไว้จะไปถามผู้ใหญ่ที่รู้ก่อนค่อยมาบอกอีกที

  มะหวดต้นนี้ บางถิ่นก็เรียกว่า กำชำ เป็นต้นไม้ที่สมารถปลูกให้เติบโตได้ในทุกภาค ในการเลี้ยงดูนั้นผมคิดว่าเลี้ยงไม่ยากหรอกเพราะที่บ้านผมเค้าขึ้นทั่วไปโดยไม่ต้องมีใครมาดูแลเค้าโตได้เองตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นท่านที่กำลังลังมองว่าจะเอาเค้ามาปลูก ปลูกง่ายโตได้สบายๆ แน่นอนครับ ในส่วนของการขยายพันธุ์ ใช้การเพาะเมล็ดง่ายสุดครับ เพราะเวลาเค้าออกลูกจะออกมาเป็นช่อ ช่อนึงมีหลายลูกเพาะเมล็ดได้สบายครับ
 
   ภาพชุดนี้เป็นภาพต้นมะหวดที่อยู่ติดกับหลังบ้าน เนื่องจากต้นนี้มีความสูงค่อนข้างพอสมควรประมาณสามสี่เมตรก็เลยต้องปีนขึ้นไปถ่ายบนกำแพงภาพอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไรเพราะตอนถ่ายยืนไม่ค่อยถนัดกลัวร่วงกำแพงลงไปนอนในท้องร่องหลังบ้านด้วยแหละก็เลยได้ภาพมาประมาณนี้ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ

No comments :

Post a Comment