Saturday, January 11, 2020

เมื่อผมลองปลูกแตงโมในกระถาง ( แตงโมจอมขวัญ F1 )


                             ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน ผมไปซื้อพวกปุ๋ยและอุปกรณ์การปลูกต้นไม้ที่ตลาดต้นไม้จตุจักร แล้วก็ได้เข้าไปเดินดูร้านขายเมล็ดพันธุ์กะว่าจะลองหาเมล็ดพันธุ์ผัก พวกผักคะน้า ผักบุ้ง หรือพวกผักที่ปลูกและดูแลไม่ยากนักไว้ปลูกทาน

                            แต่ระหว่างที่เลือกว่าจะซื้อเมล็ดผักอะไรดีนั้น ผมเกิดไปสนใจเจ้าเมล็ดแตงโมเข้าให้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ผมก็ยังไม่เคยลองปลูกแตงโมมาก่อนเหมือนกัน แต่มันเกิดความรู้สึกอยากลองดูสักที ปลูกแล้วไม่รอด ไม่ได้กินก็ไม่เป็นไร ว่าแล้วก็เลยตัดสินใจซื้อเมล็ดแตงโมมา 1 ซอง เป็นแตงโมพันธุ์ จอมขวัญ F1  รูปซองที่ซื้อก็ตามรูปด้านล่างเลยครับ


                           พอกลับมาถึงบ้านผมลองแกะห่อเมล็ดพันธุ์ออกมาดู ผมค่อนข้างชอบตรงที่เค้ามีเขียนคำแนะนำในการปลูกและการดูแลมาให้ด้วย ทั้งวิธีการปลูก การใส่ปุ๋ย ก็มีเขียนบอกไว้ด้วย ถือว่าดีเลยแบบนี้ 


เอาล่ะนะ มาลองปลูกกันเลยดีกว่าครับ

                             สำหรับเมล็ดซองนี้เค้าให้เมล็ดมา 30 กว่าเมล็ด แต่ด้วยความที่สถานที่ปลูกผมนั้นมีจำกัด เพราะผมปลูกบนดาดฟ้าซึ่งมีพื้นที่น้อย  ผมก็เลยจะลองปลูกแค่ประมาณ 8 ต้นก่อนก็แล้วกัน ซึ่งในการปลูกนั้นก็จะจำกัดลงไปอีกว่าปลูกใส่กระถาง กระถางละ 2 ต้น ทั้งหมด 4 กระถาง เรียกได้ว่าจำกัดสุดๆ แต่ก็ต้องลองดูครับ

                             สำหรับอุปกรณ์และวัสดุปลูกนั้น ผมจะปลูกในกระถางพลาสติกขนาด 14 นิ้ว โดยสูตรดินปลูกทีใช้นั้น ผมใช้แบบง่ายๆ ดินถุงทั่วๆ ไป ผมเลือกเป็นดินใบก้ามปู เพราะมีอยู่แล้ว จากนั้นก็เอาไปผสมกับ ปุ๋ยคอก และกาบมะพร้าวสับ อัตราส่วนผสมของดินก็ ดิน 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน กาบมะพร้าวสับ 1 ส่วน เป็นสูตรง่ายๆ แบบนี้เลย 

                             สำหรับในการเพาะเมล็ดนั้น ก็ง่ายๆ เช่นเดียวกัน ไม่ได้มีการบ่มเมล็ดแต่อย่างใด ผมเอานิ้วจิ้มดินเป็นหลุมไม่ต้องลึกมาก ประมาณ 2 ซม. จากนั้นก็หยอดเมล็ดลงไปแล้วก็รดน้ำให้ชุ่ม เป็นอันจบ โดยกระถางนึงผมจะเพาะ 3 เมล็ด เมื่องอกแล้วจะคัดต้นที่แข็งแรงที่สุดเก็บไว้กระถางละ 2 ต้น


                            สำหรับภาพนี้คือภาพประมาณ 6 วันหลังจากวันที่หยอดเมล็ด ต้นแตงโมของเราเริ่มงอกแล้วล่ะครับ ซึ่งในการรดน้ำนั้น ผมรดวันละครั้ง

                            สำหรับสภาพอากาศแสงแดดที่ได้รับนั้น ด้วยความที่ยังเป็นต้นอ่อน ผมเลยให้เค้าได้รับแสงแดดอ่อนๆ ถึงปานกลาง ไปก่อน เดี๋ยวพอเค้าเริ่มออกใบจริงก็ค่อยย้ายไปวางตรงจุดที่มีแดดเต็มที่ต่อไป


                           ภาพนี้เป็นภาพต้นอ่อนตอนอายุประมาณ 2 อาทิตย์ ตอนนี้เค้าออกใบจริงมาแล้ว ผมก็เลยย้ายเค้าไปวางในจุดที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่แล้ว อย่างที่บอกว่าผมเลี้ยงบนดาดฟ้า เพราะฉะนั้นเค้าโดนแดดเต็มวันเลยทีเดียวครับ


ส่วนการรดน้ำก็วันละครั้ง แต่ผมมีการใส่จานรองกระถางเพื่อเสริมไว้ด้วยเผื่อว่าน้ำจะไม่พอ

                            ในส่วนของการให้ปุ๋ย ผมพูดเลยว่าผมไม่รู้เรื่องเลยสักนิดว่าสูตรไหนถึงจะถูกต้องเหมาะสม แต่ตรงข้างซองเมล็ดเค้ามีเขียนบอกสูตรปุ๋ยอยู่เพราะฉะนั้นผมก็เลยจะเอาสูตรที่เค้าเขียนบอกไว้นั่นล่ะมาลองใช้ แต่อาจจะไม่ได้ใส่ตรงเป๊ะอย่างที่เค้าบอกหรอกนะครับ

                            อย่างตอนนี้ต้นอ่อนอายุประมาณ 2 สัปดาห์ ผมใส่เป็นปุ๋ยสูตรที่เน้นบำรุงต้นและสูตรเสมอ สำหรับตารางเวลาการให้ปุ๋ยนั้นผมจะให้ปุ๋ยประมาณอาทิตย์ละครั้งครับ 


                             ภาพนี้เป็นภาพต้นแตงโมตอนอายุประมาณ 3 สัปดาห์ ต้นแตงโมมีพัฒนาการการเติบโตที่รวดเร็วขึ้นไปอีกระดับแล้วล่ะครับ

                             ช่วงนี้ผมยังไม่พบปัญหาแต่อย่างใด รู้สึกว่ายังโชคดีอยู่ที่ยังไม่เจอโรคหรือแมลงมารบกวน การปลูกก็เลยไปได้ด้วยดีครับ


ภาพนี้เป็นภาพต้นแตงโมตอนอายุได้ประมาณ 1 เดือน ในที่สุดเค้าก็เริ่มออกดอกแล้วล่ะครับ

สำหรับช่วงที่เค้ากำลังเริ่มออกดอกแบบนี้ การให้ปุ๋ยผมก็จะเปลี่ยนไปให้เป็นปุ๋ยสูตรบำรุงดอกครับ


                            เห็นเค้าออกดอกสดใสแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะติดผลได้ดีขนาดไหน คือผมคิดว่าน่าจะมีแมลงมาผสมเกสรให้เค้านั่นแหละแต่เพื่อความชัวร์ เพราะงั้นผมก็เลยจะมาทำการผสมเกสรให้เค้าด้วยดีกว่า 

สำหรับการผสมเกสรนั้นก็ง่ายๆ


นี่คือดอกที่เป็นเกสรตัวผู้ ดอกจะเป็นลักษณะแบบนี้ 


ส่วนนี่คือดอกที่เป็นเกสรตัวเมีย ตรงโคนดอกจะมีลักษณะเป็นลูกเล็กๆ แบบนี้ 


                            ในการผสมนั้นก็ ดึงดอกเกสรตัวผู้ออกมาแล้วก็เอาไปป้ายเขี่ยใส่เกสรตัวเมียแบบนี้เลยครับ หรือจะใช้พู่กันป้ายเกสรตัวผู้แล้วไปป้ายใส่เกสรตัวเมียก็ได้ครับ

2 วันหลังจากผสมเกสร ลูกแตงโมน้อยๆ ก็เริ่มเจริญเติบโตขึ้นมาแล้ว


                             ภาพต้นแตงโมที่กำลังติดลูก ด้วยความที่ปลูกบนดาดฟ้าไม่ได้มีสถานที่เป็นระบบระเบียบแต่อย่างใด ก็ปล่อยเค้าเลื้อยไปเรื่อย

                              หลังจากที่ผสมเกสรติดลูกหมดทุกต้นแล้ว บางต้นที่ติดลูกหลายลูกผมก็จะเลือกลูกที่มันสมบรูณ์ที่สุดไว้เพียงต้นละ 1 ลูกเท่านั้น ที่เหลือเด็ดทิ้งไปจะได้ไม่มาแย่งอาหารกัน


                           หลังจากที่เริ่มเจริญเติบโต การให้ปุ๋ยก็ยังคงให้อาทิตย์ละครั้งแต่จะมีการปรับสูตรปุ๋ย โดยเปลี่ยนไปให้เป็นปุ๋ยที่ช่วยในเรื่องบำรุงผล 


ภาพนี้เป็นภาพลูกแตงโมตอนอายุ 1 สัปดาห์ ลูกเริ่มขยายน่าจะเกือบเท่ากำปั้นแล้ว


                             ภาพนี้คือภาพลูกแตงโมอายุ 12 วัน หรือถ้านับอายุต้นก็ประมาณ 43 วัน ลูกแตงโมเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ผมปลูกกระถางละ 2 ต้น จุดนึงที่ผมคิดว่าตัวเองพลาดไปก็คือ พอปลูกกระถางละ 2 ต้น มันก็เลยแย่งอาหารกันเองทำให้ ลูกแตงโมนั้นมันไม่โตเท่าที่ควร ผมคิดว่าถ้าปลูกกระถางละต้น น่าจะเติบโตได้มากกว่านี้อีกเป็นเท่านั้นแน่ๆ แต่ก็แก้อะไรไม่ได้แล้วก็ต้องยอมรับไปว่าลูกแตงโมนั้นอาจจะไม่ใหญ่มากนัก 

เหมือนว่าทุกอย่างจะลงตัวดี ลูกแตงโมกำลังเติบโตสวยงาม แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นจนได้


ประมาณ วันที่ 50 ( อายุต้น ) ผมพบว่าต้นแตงโมถูกโจมตีด้วยหนอนชอนใบ
 
                             ผมไม่อยากใช้ยาเพราะ ช่วงต้นแตงโมอายุ 50 วันนั้น ดูจากเวลาอีกไม่นานจะถึงกำหนดเก็บเกี่ยวแล้ว ถ้าใช้ยาเคมีฆ่าหนอน ก็กลัวจะมีสารตกค้าง ส่วนพวกยาชีวภาพผมก็ดันหาซื้อไม่ได้ตอนนั้น สุดท้ายผมก็เลยกัดฟันทน ปล่อยไว้แบบนั้นเพราะอีกแค่ 10 วันเอง น่าจะไหว


                            และความผิดพลาดที่ 2 ก็ตามมาติดๆ นั่นก็คือ ผมไปอ่านเจอมาว่าในช่วงระยะที่ลูกแตงโมเติบโตใกล้จะเก็บแล้วแบบนี้ ให้ใส่พวกปุ๋ยบำรุงผล ปุ๋ยหวาน ซึ่งความผิดพลาดก็คือ ผมกะอัตราส่วนปุ๋ยผิดพาด ทำให้ผสมปุ๋ยในอัตราส่วนที่เข้มข้นเกินไป ปรากฏว่าทำให้ต้นเกิดอาการใบเหลือง ใบไหม้ ยอดไหม้ ต้นชะงักการเจริญเติบโตหมดเลย


                             ผมไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน เพราะเราปลูกมาจนใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว  ไหนจะเรื่องหนอนชอนใบ ตอนนี้ต้นมาไหม้ปุ๋ยอีก สุดท้ายผมก็เลยต้องทำใจว่าได้แค่ไหนแค่นั้นก็แล้วกัน


แต่ถึงต้นจะชะงัก แต่ลูกยังไหวอยู่ครับ ผมเอาถุงมาห่อไว้

ในที่สุดเราก็ยื้อมาจนถึงวันเก็บเกี่ยวจนได้


                            ในภาพนี้คือต้นแตงโมที่อายุประมาณ 60 วัน ถ้านับอายุลูกก็ประมาณ 30 วันหลังติดลูก ต้นนี้เหี่ยวไปต่อไม่ไหวแล้ว แต่บางต้นก็ยังไม่ตายนะครับ เหี่ยวไปส่วนนึงอีกส่วนนึงแค่ใบเหลือง แต่มันถึงกำหนดตัดแล้วเพราะงั้นผมก็เลยจะตัดลงเลยแล้วกัน


ได้แตงโมมาทั้งหมด 8 ลูก ผมจะแบ่งผ่ารอบแรกก่อน 2 ลูกก็แล้วกันนะครับ

                             เพราะแตงโมนั้นสามารถเก็บไว้ได้หลายวันเพราะฉะนั้นลูกที่เหลือผมก็วางผึ่งเอาไว้เฉยๆ เลยก็แล้วกัน ผ่าแค่ 2 ลูกเอาแค่พอกินนะครับ


ลูกนี้ผมว่าหนักประมาณ 1 โล ผมว่าน่าจะโอเคนะ


ผ่าแล้วครับ


เนื้อถือว่าแดงใช้ได้


                           จากที่ชิมนะครับ ลูกใหญ่รสชาติหวานโอเคเลยทีเดียว ส่วนลูกเล็กหวานน้อยไปหน่อยแต่ก็พอทานได้ ถือว่าผมค่อนข้างพอใจ ได้แค่นี้ก็โอเคแล้วครับ

ชุดต่อมา ประมาณ 4-5 วันหลังจากผ่าชุดแรกไป เราก็จะมาผ่าชุดที่ 2 กัน


รอบนี้ผ่ากัน 3 ลูก 


ภาพไม่ชัดเท่าไรนะครับ ผมถ่ายตอนกลางคืนถ่ายด้วยมือถือเก่าๆ เพราะงั้นภาพสีมันจะทึบๆ ไม่สว่างเท่าไร 


                           ซึ่งจากที่ผ่า 3 ลูกนี้ไปนั้น ความรู้สึกก็เหมือนชุดที่แล้วเลยครับ คือลูกที่เป็นลูกใหญ่จะรสชาติหวานพอใช้ได้ ส่วนลูกเล็กๆ จะหวานน้อยแต่ก็พอทานได้ เอาไปแช่ตู้เย็นสักหน่อยผมว่าชื่นใจอยู่ครับ

                            ส่วน 3 ลูกที่เหลือนี้ผมขอไม่ผ่าให้ดูก็แล้วกันนะครับ ผมว่าจะเอาไปแบ่งคนอื่นทานบ้างดีกว่า เพราะงั้นก็ประมาณนี้ก็แล้วกันนะครับ


                             สรุปการทดลองปลูกแตงโมพันธุ์ จอมขวัญ ของเราในครั้งนี้ อาจจะได้ลูกไม่ใหญ่สักเท่าไร ด้วยความที่ปลูกใส่กระถาง และปลูกกระถางละ 2 ต้น ทำให้เค้าแย่งอาหาร แย่งการเจริญเติบโตกัน จนทำให้โตได้ไม่เต็มที่ และตอนช่วงท้ายๆ ของการปลูก ก็เจอกับปัญหาหนอนชอนใบ และปัญหาใส่ปุ๋ยเข้มเกินไปจนใบเหลือง ยอดไหม้ ทำให้สุดท้ายแล้วการปลูกแตงโมของเรามันไม่ได้สำเร็จเต็ม 100 ถ้าให้ผมให้คะแนนตัวเองผมคงให้แค่ 5 เต็ม 10 เท่านั้น มีอีกหลายเรื่องเลยครับที่ต้องปรับปรุง แต่ผมก็ดีใจนะที่สุดท้ายแล้วยังสามารถที่จะยื้อมาจนได้เก็บผล ได้ทาน เพราะย้อนกลับไปตอนที่ผมเริ่มคิดที่จะปลูกนั้น ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเลยครับ ผมโอเคแล้วครับ แล้วก็จะเก็บเอาไว้ปรับปรุงต่อไป


                           การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องที่สนุกดีนะครับ ได้เรียนรู้ ได้เห็นพัฒนาการและความเป็นไป ตอนที่เราได้เห็นเค้าเติบโต ได้เก็บผลผลิตที่เราดูแลมาด้วยมือของเรา ไม่ว่าสิ่งที่เราปลูกนั้นมันจะสำเร็จได้ตามที่หวังหรือไม่ ไม่ว่าผลปลายทางจะเป็นอย่างไร ผมว่ามันชื่นใจทั้งนั้นนั่นล่ะครับ 

ขอให้สนุกกับการปลูกต้นไม้ แล้วพบกันใหม่ครับ

                           สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบหรือสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการปลูกแคคตัส ลองเข้าไปชมบล็อกนี้กันได้นะครับ เป็นบล็อกในเครือของเราเอง https://chowcactus.blogspot.com/ 

1 comment :

  1. ชอบเรื่องราวที่พี่เขียนมากเลยครับ อ่านย้อนหลังไปหลายเรื่องเลย :)

    ReplyDelete