Friday, July 12, 2013

สิงโตก้ามปูใหญ่

Bulbophyllum macranthum Lindl หรือ กล้วยไม้สิงโตก้ามปูใหญ่



  
   ที่บ้านผมมีกล้วยไม้ประเภทสิงโตปลูกแบบเกาะไม้อยู่เกือบสิบไม้ มีทั้งสิงโตนกเหยี่ยวเล็ก สิงโตก้ามปู สิงโตพัดโบก และอื่นๆ... ที่มาที่ได้มาก็ค่อนข้างหลากหลายแต่ส่วนใหญ่ก็ซื้อๆ ตามงานต้นไม้ที่จัดตามสถานที่ต่างๆ ประจำปีเนี่ยแหละ บางส่วนเป็นไม้นิ้วได้มาแล้วเราเอามาเกาะไม้ต่อเองที่บ้าน บางส่วนก็มาเป็นไม้เลยทั้งไม้เล็กไม้ใหญ่ ตอนซื้อเขาโชว์ดอกมาด้วยก็น่ารักดีรู้สึกประทับใจสอบถามไปถ้าคนขายว่าเลี้ยงง่ายได้เห็นดอกในภาคกลางก็รับมาเลี้ยงแบบไม่คิดมาก รดนํ้าใส่ปุ๋ยแขวนเรียงๆ กันไว้ แต่คงเป็นเพราะผมยังรู้จักธรรมชาติในการปลูกเลี้ยงไม่ดีพอ เอาใจใส่เขาไม่มากพอรึก็เป็นได้ เกือบทั้งหมดหลังจากหมดดอกที่ได้มาตอนซื้อจากร้านก็ไม่ได้เห็นดอกรอบใหม่ให้ได้ชื่นใจเลยสักที จะยกเว้นก็แต่ เจ้าสิงโตก้ามปูใหญ่ตัวนี้นี่แหละที่เป็นไม้เดียวที่ออกดอกให้ได้ชมตลอดทุกปีแถมต้นยังโตไปเรื่อยๆ จนพันแน่นรอบไม้ เสียดายที่ออกดอกแต่ละทีมาทีละไม่กี่ดอกแถมดอกเล็กมากแทบจะถูกใบเขี้ยวๆ ใหญ่ๆ กลืนไปจนหมดจนถ้ามองใกลๆ ก็คงไม่เห็น


      สำหรับปัญหาอย่างนึงในการปลูกสิงโตรวมถึงกล้วยไม้อื่นๆ ด้วยของผมก็คงจะอยู่ที่การปลูกแบบเกาะไม้เนี่ยแหละเพราะการปลูกกล้วยไม้แบบเกาะไม้เลยโดยไม่มีวัสดุเก็บความชื้นรองรับเค้าจะแห้งเร็วยิ่งถ้าเป็นวันที่อากาศร้อนแดดแรงสถานที่ปลูกเป็นแบบเปิดลมโกรกถ้าเรารดนํ้าไม่บ่อยมันจะมีปัญหาเรื่องความแห้งของเขามากขึ้นไปอีกจนอาจจะทำให้การเจริญเติบโตชะงักได้ 
      ปัญหานี้ผมเริ่มแก้ไปแล้วบางส่วนด้วยการที่สำรวจสถานที่ปลูกก่อนว่าเราปลูกในสถานที่แบบไหน ได้รับแสงช่วงเวลาอะไร แสงแรงแดดร้อนมากไปรึเปล่า ตัวผมเองนั้นปลูกกล้วยไม้แบบแขวนราวซึ่งราวนั้นไม่ได้อยู่ใต้หลังคาแต่จะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ถึงไม่กันฝนแต่ยังได้ร่มไม้กันแดดบ้างแต่ไม่กันลมเพราะต้นไม้สูงมาก ก็ต้องมานั่งจัดวางว่าอันไหนชอบแดดก็แขวนไว้ตรงที่แดดจะลง อันนี้แดดแรงแล้วทนไม่ไหวก็เขยิบเข้ามาในทิศทางที่เค้าจะได้ร่มไม้ เรื่องความชื้นก็เสริมเข้าไปก่อนปลูกถ้าเป็นอย่างสิ่งโตที่ผมปลูกแบบพันกับไม้ผมจะใช้วิธีเอารากเฟิร์นหั่นเป็นแผ่นๆ หาไม่ได้ก็กาบมะเพร้าแผ่นๆ นี่แหละฝานมาไม่ต้องหนาเอามาแปะกับไม้ก่อนแล้วค่อยเอากล้วยไม้ไปวางบนรากเฟิร์นอีกทีเพราะรากเฟิร์นจะอมนํ้าพอเอากล้วยไม้ไปวางเค้าก็จะได้ความชื้นจากรากเฟิร์นอีกต่อ ในส่วนของการรดนํ้านั้น วันไหนฝนตกผมก็ปล่อย วันไหนแดดร้อนอากาศแห้งก็รดนํ้าเช้าเย็น แต่โดยปรกติรดนํ้าวันละครั้ง



 
      ผมไม่ได้ปลูกกล้วยไม้แบบเป็นระบบสักเท่าไรอาศัยแขวนหรือวางไปทั่วตามราวแขวนที่มีอยู่รอบๆ บ้าน การรดนํ้าก็ใช้แบบสายยางฉีดฝอย ปลูกกันไปตามข้อจำกัดที่มีที่พอจะทำได้ บางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนกันว่ายังดูแลเขาได้ไม่ดี ถึงบางต้นจะงอกงามแต่บางต้นก็จากไป ก็เลยทำให้คิดอยู่เสมอเวลาที่จะมองหาของใหม่เข้ามาว่าจะต้องดูให้ดีว่าเราสามารถเลี้ยงเค้าได้เท่านี้ สายพันธุ์ที่เราจะรับเข้ามาจะต้องทนอยู่กับเราได้โดยไม่ลำบากเกินไป ต้องอยู่กับสภาพอากาศแบบบ้านเราได้ ถึงแม้บางทีจะเจอกล้วยไม้ที่สวยถูกใจแต่ถ้าเป็นสายพันธุ์ที่ยากเกินกว่าเราจะเลี้ยงต้องใช้ความพิถีพิถันหรือต้องการสถาพอากาศที่เหมาะสมถึงจะมีดอกแต่เลี้ยงบ้านเราอากาศไม่เหมาะให้เค้าออกดอกก็ต้องตัดใจ ดีกว่าหามาแล้วมีแต่ใบหรือไปไม่รอดคงไม่ดีแน่


No comments :

Post a Comment