Zephyranthes Beni tama หรือ Zephyranthes Benidama แรกเริ่มตอนที่ผมได้เจ้าบัวดินสายพันธุ์นี้มานั้นมันเกิดมาจากรูปภาพที่เป็นเหตุ จำได้ว่าตอนนั้นคือช่วงประมาณต้นปี 56 มีคนนำบัวดินสายพันธุ์นี้มาลงขายเอาไว้ในเว็บไซต์เว็บนึง ในรายละเอียดยังได้บอกเอาไว้อีกด้วยว่าเจ้าต้นนี้เป็นบัวดินที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่มาจากประเทศอะไรนั้น ถ้าดูจากชื่อก็พอจะทำให้คาดเดาได้ว่าน่าจะมาจากญี่ปุ่นนั่นล่ะนะสำหรับบัวดินสายพันธุ์นี้ หรือไม่ก็ของจีน เพราะช่วงนั้นไม้จีนกำลังเข้ามาเยอะเสียด้วย แต่จะมาจากไหนก็ช่าง ตอนนั้นผมไม่ได้ใส่ใจที่มาสักเท่าไรหรอกเพราะภาพดอกของเจ้าบัวดินสายพันธุ์นี้ที่ผมเห็นในตอนนั้นมันสวยเตะตาเป็นอย่างมากจนผมซื้อเลยโดยที่ไม่คิดอะไรทั้งนั้น
จำได้ว่าราคาของบัวดินสายพันธุ์นี้ในตอนนั้นมีราคาแพงพอสมควรครับ หลักร้อย แต่ไม่บอกแล้วกันว่ากี่ร้อย เพราะมันผ่านไปนานแล้วราคาต้นไม้มันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาหมดแล้วเพราะงั้นไม่สำคัญแล้วล่ะครับเรื่องราคา
แต่หลังจากที่ผมซื้อเจ้าต้นนี้มา ช่วงแรกต้องยอมรับเลยว่าเค้าเป็นบัวดินสายพันธุ์นึงที่ผมเลี้ยงไม่รุ่ง เพราะออกดอกยากมากครับ ช่วงปี 56-57 เค้าไม่เคยออกดอกเลยสักครั้ง ผมไม่ทราบนะครับว่าท่านอื่นๆ ที่เลี้ยงบัวดินสายพันธุ์นี้จะออกดอกเก่งหรือไม่ แต่ช่วงปีสองปีแรกที่ผมเลี้ยงเจ้าต้นนี้ เรื่องการออกดอกนี่เงียบสนิทสุดๆ
แต่ถ้าไม่นับเรื่องการออกดอกล่ะก็ ผมว่า Beni tama เป็นบัวดินสายพันธุ์นึงที่เลี้ยงง่ายนะครับ อดทนต่อสภาพอากาศได้ดีและเจริญเติบโตได้ไวมากเลยทีเดียวครับ แตกกอเก่งใช้ได้เลยล่ะ
เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ยอมมีดอกแต่ก็ยังไม่หมดหวัง ผมเชื่อนะว่าบัวดินเป็นไม้ที่สภาพอากาศในบ้านเราสามารถที่จะเลี้ยงได้แน่ๆ
เพราะฉะนั้นต่อให้เลี้ยงมานานเป็นปีก็ยังไม่มีดอกสักที แต่สักวันนึงเค้าจะต้องออกดอกให้ผมได้เห็นสักครั้งแน่ๆ
แค่อาจจะต้องอดทนรอกันสักหน่อยก็เท่านั้น
และการรอคอยครั้งนั้นก็เกิดผลจนได้ในปีนี้
ในที่สุดดอกแรกหลังจากผ่านมาสองปีก็เผยโฉมออกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เองครับ
สวย ! นั่นคือความรู้สึกตอนที่ผมได้เห็นดอกของเค้าผลิบาน
สีสันสวยงามอ่อนหวาน รูปทรงดอกก็ดูลงตัวดี
ผมชอบลักษณะการเรียงตัวของกลีบดอกแบบนี้แฮะ ดอกดูห่อๆ ไม่ได้คลี่บานเต็มที่แต่ดูแล้วสวยดี เรียกได้ว่าการรอคอยในครั้งนี้ถึงแม้จะนานแต่ก็คุ้มค่าครับ
และหลังจากที่เค้าออกดอกครั้งแรกก็ไม่หายไปแค่ครั้งเดียวครั้งนั้น เพราะหลังจากนั้นเค้าก็เริ่มออกดอกมาอีกเรื่อยๆ
ไม่มากแต่ก็ไม่ห่างหายไปนาน มีมาให้ได้ชมทีละนิดให้พอได้ชื่นใจเล็กๆ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าที่ผ่านมาในช่วงปีสองปีแรกที่เลี้ยงเค้านั้นมันเป็นเพราะอะไรทำไมเค้าถึงไม่ยอมออกดอกเลยสักครั้ง แต่พอมาปีนี้เค้ากลับยอมออกดอกและออกดอกกันต่อเนื่องแบบนี้
นี่มันเป็นเรื่องของโชคชะตารึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ
แต่การออกดอกของเค้าได้นำพาเรื่องราวในความทรงจำของผมให้ย้อนกลับไปในช่วงที่กำลังสนุกกับการเลี้ยงบัวดินอีกครั้งแล้วล่ะครับ
เพราะเจ้าต้นนี้นี่แหละที่ทำให้ช่วงนี้ผมต้องรื้อกระถางบัวดินทั้งบ้านเอามาเปลี่ยนดินใหม่หลังจากที่ไม่ได้เปลี่ยนดินมาเกือบปี
จากที่ผมรู้สึกเนือยๆ ไม่ค่อยขยันดูแลบัวดินสักเท่าไร
ช่วงนี้ผมตั้งใจกับการดูแลใส่ปุ๋ยเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ
ก็หวังจริงๆ ว่าหลังจากนี้ต่อไปเจ้าต้นนี้จะยังออกดอกมาให้ได้ชมกันอีกเรื่อยๆ
แบบนี้ไม่ห่างหายไปไหน ก็คงจะดีไม่น้อย
บัวดินแสนสวยจากแดนไกลต้นนี้ ผมไม่ทราบนะครับว่า
ตอนนี้ ช่วงนี้ เค้ามีกระแสเป็นยังไงบ้าง มีการปลูกเลี้ยงกันเยอะมั้ย
ความนิยมมีมากน้อยขนาดไหนราคาขายนั้นมากน้อยขนาดไหน ผมไม่ค่อยได้ติดตามเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นถ้าท่านใดผ่านเข้ามาอ่านในบล็อกของผม ก็ต้องขอบอกเลยนะครับ
ว่าข้อมูลในบล็อกของผมบางทีก็ไม่สมบรูณ์และเอาไปเทียบเคียงกับในท้องตลาดปัจจุบันไม่ได้นะครับ
เพราะกระแสบัวดินในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากตอนช่วงสมัยที่ผมซื้อบัวดินเป็นอย่างมาก
บัวดินหลายๆ สายพันธุ์ที่ผมซื้อในอดีตราคาอาจจะหลายบาท
แต่ปัจจุบันนั้นถูกกว่าตอนที่ผมซื้อมากๆ ก็มีนะครับ
และบัวดินบางสายพันธุ์ที่ผมมองว่าเลี้ยงยาก
แต่คนอื่นเลี้ยงก็อาจจะมองว่าเลี้ยงง่ายไม่เหมือนผมก็เป็นได้นะครับ เพราะฉะนั้น
อย่าพึ่งเอาข้อมูลนี้ไปฟันธงนะครับว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องมันคือมาตรฐาน
เพราะความเปลี่ยนแปลงนั้นมันเกิดได้ตลอดเวลาครับ
หลังจากที่ไม่ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับบัวดินมาหลายเดือน
ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้กลับมาเขียนอีกครั้ง
ก็หวังว่าในอนาคตเราจะได้มาพบกันใหม่กับเรื่องราวเกี่ยวกับบัวดินเรื่องต่อไป
แต่ต้องเป็นหลังจากที่ผมเคลียบทความเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ
ที่ค้างเอาไว้หลายเรืองให้จบก่อนนะครับ เพราะมีหลายเรื่องเลยที่ยังปิดไม่ลงช่วงนี้
ก็เอาไว้พบกันใหม่อีกครั้งเมื่อพร้อมก็แล้วกันนะครับ ขอบคุณทุกท่านมากๆ
ที่ติดตามกันมา แล้วเจอกันครับ
No comments :
Post a Comment