เมื่อประมาณอาทิตย์ก่อนกล้วยไม้สิงโตนักกล้ามที่บ้านผมจู่ๆ
ก็ออกดอกมาพร้อมๆ กันสามไม้รวด เล่นเอาตกใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
เพราะที่ผ่านมากล้วยไม้สิงโตชุดนี้สีนี้ผมเลี้ยงมาหลายปีแต่ก็ไม่ค่อยจะออกดอกให้ได้ชมกันสักเท่าไร
ไม่เหมือนกับอีกสีนึงที่ออกดอกบ่อยกว่ามากปีนึงออกหลายชุดเลยทีเดียว ซึ่งไอ้เจ้าสิงโตนักกล้ามที่ว่าออกดอกบ่อยกว่านั้นผมเคยเอารูปมาลงให้ดูกันไปเมื่อตอนปีที่แล้วในบทความนี้
สิงโตนักกล้าม Bulbophyllum lasiochilum ลองย้อนไปดูกันได้ครับเป็นสิงโตนักกล้ามดอกสีเข้มสวยใช้ได้เหมือนกัน
กลับมาต่อที่กล้วยไม้สิงโตนักล้ามต้นที่เอามาให้ดูในวันนี้กันดีกว่า ไม้ชุดนี้เป็นไม้ที่ตอนแรกมาเป็นแพใหญ่พอสมควร แล้วผมเอามาแยกเป็นกอเล็กๆ
กระจายไปผูกตามไม้แขวนบ้างผูกติดกับต้นชมพู่บ้าง ซึ่งที่ผ่านมาเค้าก็เจริญเติบโตมาเรื่อยๆ มีปัญหามารบกวนบ้างแต่ก็ไม่เกินการรับมือแต่อย่างใด
แค่ว่าเค้าไม่ค่อยมีดอกให้ได้ชมกันเท่านั้นเองครับ
ซึ่งโดยปรกติกล้วยไม้สิงโตนักกล้ามนั้นเป็นกล้วยไม้ที่มีฤดูกาลออกดอกอยู่ในช่วงปลายปีประมาณเดือน
ตุลาคม – ธันวาคม หรืออาจจะเลยไปถึงช่วงต้นปีใหม่ในเดือนมกราคมอะไรประมาณนั้น
เพราะงั้นตอนช่วงที่ผ่านเดือนมกราคมมาแล้วผมยังไม่เห็นเจ้าพวกนี้ออกดอกผมก็ไม่ได้คาดหวังแล้วล่ะว่าปีนี้จะได้เห็นดอกของเค้า
แต่ที่ไหนได้สิงโตนักกล้ามชุดนี้ของผมกลับโดดมาออกตอนช่วงปลายเดือนกุมภาซะงั้น
เรียกได้ว่าเป็นเซอร์ไพรส์รับหน้าร้อนกันเลยทีเดียวครับ
แต่เค้ามาออกดอกช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะผมจะได้ไม่ต้องรอไปเรื่อยๆ
มาช้าแต่ก็ยังมาให้ได้เห็นหน้ากันบ้าง คนปลูกก็ยังพอได้ชื่นใจที่อย่างน้อยสิ่งที่ทำไปก็ได้เห็นผลตอบรับ จะมาช้าบ้างสายบ้างไม่มีปัญหารู้แค่ว่าปลูกแล้วออกดอกกำลังใจก็มาเยอะแล้วครับ
กล้วยไม้สิงโตนักกล้ามชุดนี้ดอกมีกลิ่นด้วยนะครับ เป็นกลิ่นหอมจางๆ ลองดมใกล้ๆ แล้วพอจะรู้สึกได้ว่าหอม แต่อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเป็นความหอมแบบไหน ออกแนวหอมแปลกๆ ในความรู้สึกของผมน่ะนะ
มาดูที่กอนี้กันบ้าง กล้วยไม้สิงโตนักกล้ามกอนี้ปลูกลงในกระถาง วัสดุปลูกที่ใช้ก็เป็นกาบมะพร้าวมัดเป็นตุ้ม ซึ่งเป็นของพื้นๆ หาได้ทั่วไปนี่แหละ ตอนนี้เจ้ากอนี้เจริญเติบโตสวยงามรากเกาะแน่นดีไม่มีหลุดครับ แต่กาบมะพร้าวเริ่มใกล้ผุแล้ว อีกไม่นานคงได้มีการรื้อออกมาปลูกใหม่ต่อไป อันนี้เป็นข้อด้อยอย่างนึงของการใช้กาบมะพร้าวล้วนๆ เป็นวัสดุปลูกกล้วยไม้ครับ กาบมะพร้าวนั้นถึงจะดีในเรื่องของการเก็บความชื้นที่มากกว่าผูกกับไม้เพียวๆ แต่อายุการใช้งานนั้นไม่มากเท่าไรไม่กี่ปีก็ผุพังต้องเปลี่ยนใหม่แล้วครับ เทียบกับสองกอแรกที่ผมลงให้ดูด้านบนทั้งสองกอนั้นมีกาบมะพร้าววางรองที่รากกล้วยไม้ก็จริง แต่ด้านในอีกชั้นเป็นไม้ครับ อย่างกอแรกเป็นไม้แขวนส่วนอีกกอนั้นเกาะอยู่กับกิ่งต้นชมพู่ เพราะงั้นถึงกาบมะพร้าวจะผุพังได้ในอนาคตแต่เมื่อถึงตอนนั้นรากเค้าก็ชอนไชเกาะไม้แน่นติดแข็งแรงเรียบร้อยไม่ต้องไปห่วงเรื่องจะต้องเอามาปลูกใหม่อีกแล้ว แต่กอนี้ก็ถ้ากาบมะพร้าวผุพังเมื่อไรก็ต้องปลูกใหม่ไปเริ่มกันอีกรอบครับ
ติดฝักด้วยนะครับสำหรับสิงโตนักกล้ามกอนี้ เป็นการติดฝักแบบธรรมชาติสร้างรรค์ คนปลูกไม่ได้ไปยุ่งเลยสักนิด สงสัยพวกแมลงนั่นแหละที่เป็นคนจัดการ
เพราะผมสังเกตุเห็นช่วงที่ดอกของเค้าบานนั้นมีแมลงมาวนเวียนตอมดอกอยู่ตลอดเลยครับ
แต่ถึงจะติดฝักผมก็คิดว่าคงไม่สามารถเอาไปเพาะให้ขึ้นได้ง่ายๆ แน่ๆ
เพราะงั้นผมก็คงจะปล่อยไว้แบบนี้แหละให้ฝักเค้าแก่ร่วงโรยไปตามเส้นทางของเค้าจะพาไปก็แล้วกัน
เรื่องการเก็บฝักกล้วยไม้มาเพาะนั้นมันเกินตัวผมไปเยอะครับ
ก็หวังว่าช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าผมจะได้เห็นดอกของเค้าอีกไม่ลาจากกันไปไหน ผมก็จะตั้งใจเลี้ยงดูเค้าต่อไปค่อยๆ ขยับขยายการเลี้ยงกันไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน ก็หวังเหลือเกินว่าธรรมชาติจะไม่โหดร้ายนำพาโรคภัยพายุมาทดสอบการปลูกกล้วยไม้ของผมมากนักในปีนี้ เพราะปีที่ผ่านมานั้นผมโดนไปเยอะเลยทีเดียวครับทั้งพายุฝนทั้ง หนอน แมลง ตั๊กแตน เพลีย สารพัดที่ต้องต้องสู้กันอยู่บ่อยครั้งกว่าจะเอาตัวรอดมาได้ ปีนี้ก็ขออย่าให้ต้องเหนื่อยขนาดนั้นอีกเลยครับ ขอเบาๆ หน่อยแล้วกันกับปัญหาในปีนี้
ตอนนี้ที่บ้านผมที่สมุทรปราการอากาศร้อนมากเลยครับ ต้องรดน้ำกล้วยไม้กันอย่างหนักเลยทีเดียวช่วงนี้ และดูแล้วก็มีทีท่าว่าจะต้องเจอกับอากาศร้อนที่หนักขึ้นไปมากกว่านี้อีกแน่ๆ เพราะนี่ยังพึ่งจะเริ่มเข้าหน้าร้อนเองด้วย ของจริงยังไม่มาเลยด้วยซ้ำ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าช่วงเมษาจะร้อนขนาดไหน ทุกวันนี้เวลาที่ต้องเดินดูต้นไม้ตอนช่วงกลางวันบอกตามตรงเลยว่าผมค่อนข้างเหนื่อยกับอากาศร้อนเป็นที่สุดเลยครับ เดินดูได้ไม่นานก็ต้องหลบเข้าบ้านไปพักเสียแล้ว คิดว่าหลายๆ ท่านที่ต้องอยู่กับการปลุกต้นไม้ช่วงนี้ก็คงจะต้องสู้กับอากาศร้อนเช่นเดียวกัน ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วยแล้วกันนะครับ เหนื่อยก็พักดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจหายเหนื่อยแล้วก็สู้กันต่อไป ผ่านหน้าร้อนนี้ไปให้ได้ด้วยกันครับ
No comments :
Post a Comment