Monday, September 25, 2017

ว่านสี่ทิศ NK1


                    สวัสดีครับ วันนี้ผมมีภาพว่านสี่ทิศดอกสวยต้นนึงเอามาฝากให้ได้ชมกัน เป็นภาพที่ผมถ่ายเอาไว้นานแล้วครับ แต่พึ่งจะมีโอกาสได้เอามาลง เอาเป็นว่าไม่ขอเกริ่นอะไรมากมาย เราไปชมภาพกันเลยดีกว่าครับ


                       สำหรับว่านสี่ทิศต้นนี้เป็นว่านสี่ทิศ NK1 ( จากป้ายหน้าถุงใส่หัวว่านเขียนเอาไว้ว่า NK1 เพราะฉะนั้นผมขอเรียกชื่อเค้าว่า ว่านสี่ทิศ NK1 ก็แล้วกันนะครับ ) ซึ่งเจ้าต้นนี้นั้น ผมซื้อมาจากร้านโครงการหลวง สาขา อ.ต.ก. ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นความบังเอิญ เพราะผมก็ไม่ทราบเลยว่าช่วงนั้นทางร้านโครงการหลวงจะมีจำหน่ายหัวว่านสี่ทิศด้วย คือเคยได้ยินมาว่ามีขายแต่ไม่แน่ใจว่าขายช่วงเดือนไหนหรือขายที่สาขาไหนบ้าง แต่พอดีตอนนั้นผมไปซื้อของแถวตลาด อ.ต.ก. และก็แวะไปที่ร้านโครงการหลวงกะว่าจะไปดูผักสด และผลไม้ ก็เลยได้เจอว่ามีหัวว่านสี่ทิศขายอยู่พอดี แล้วนอกจากนั้นก็ยังมีหัวบัวดินขายด้วยนะครับ ซึ่งผมตัดสินใจซื้อว่านสี่ทิศมาลองปลูก 1 หัว กะว่าเริ่มจากหัวนี้ก่อน ถ้าเค้าออกดอกมาแล้วถูกใจก็จะมาซื้ออีกในคราวหลัง

                     ซึ่งว่านสี่ทิศกับบัวดินที่ทางร้านนำมาขายนั้นก็ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจมากครับ ราคาไม่แพง อย่างว่านสี่ทิศหัวนึง 75 บาท เท่านั้น ส่วนบัวดินผมจำราคาแบบตรงๆ ไม่ได้ แต่ไม่แพงไปกว่าว่านสี่ทิศแน่นอนครับ ( อันนี้คือผ่านมานานแล้วนะครับ ถ้าเป็นในตอนนี้ ในช่วงวันเวลาที่คุณกำลังอ่านเรื่องราวนี้อยู่นั้น ผมไม่ทราบนะครับ ว่ามีการเพิ่มเติมอะไรยังไงบ้าง เพราะข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเก่านะครับ ตอนนี้อาจจะยังมีหัวว่านสี่ทิศขายอยู่หรืออาจจะหมดช่วงไปแล้วก็ได้นะครับ หรือไม่ก็อาจจะมีไม้ชนิดอื่นมาขายเพิ่มเติมก็ได้นะครับ )


                       โดยหัวว่านสี่ทิศที่ทางร้านนำมาขายนั้นจะมาแบบเป็นหัวๆ แพ็คใส่อยู่ในถุงตาข่าย ( เราต้องนำมาปลูกเอง )  โดยข้างในถุงจะมีหัวว่านสี่ทิศ 1 หัว ( ถ้าเป็นบัวดิน ถุงนึงจะมีเยอะมาก เป็นสิบหัวเลยครับในหนึ่งถุง ) พร้อมทั้งในถุงจะมีแถมพวกปุ๋ยมาให้ด้วย และก็มีกระดาษที่แถมวิธีการปลูกมาเป็นคู่มือให้เราด้วยอีกตางหาก เรียกได้ว่าครบเลยทีเดียวครับ ใครที่ปลูกไม่เป็นก็สามารถอ่านวิธีการปลูกและทำตามได้อย่างไม่ยากนัก แต่อย่างตัวผมนั้นมีประสบการณ์ในการปลูกและดูแลว่านสี่ทิศมาบ้างแล้ว เพราะงั้นผมก็ปลูกอย่างที่เคยทำมาครับ 


                        สำหรับขั้นตอนการปลูกว่านสี่ทิศของผมนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ผมปลูกใส่กระถาง โดยดินปลูกที่ใช้ผมจะใช้ดินที่มีความโปร่งระบายน้ำได้ดีสักหน่อย ซึ่งผมเลือกเป็นดินผสมใบก้ามปูครับ เป็นดินที่ผมใช้ประจำเลยก็ว่าได้

                       ส่วนการดูแลนั้นก็สบายๆ แดดดี น้ำถึง กระถางนี้ผมเลี้ยงตรงระเบียงบ้าน โดนแดดมากพอสมควร ส่วนการให้น้ำก็ สองสามวันครั้ง วันไหนฝนตกผมก็จะไม่รดน้ำเพราะมันเปียกอยู่แล้วก็เลยไม่ต้องรด



                        ว่านสี่ทิศที่ทางร้านโครงการหลวงนำมาขายนั้น เค้าพร้อมที่จะให้ดอกได้ทันทีหลังจากที่เรานำมาลงปลูกแล้วล่ะครับ ผมสังเกตุจากตอนที่ซื้อ เค้าเริ่มมีช่อดอกแทงขึ้นมานิดนึงแล้วแล้วด้วยก็เลยเลือกมา ซึ่งพอเราเอามาลงปลูก ดอกของเค้าก็เริ่มที่จะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ  พอสัก 2-3 อาทิตย์ต่อมา ดอกของเค้าก็เจริญเติบโตจนพร้อมจะเบ่งบานสดใสให้เราได้ชื่นชมแล้วล่ะครับ


ดอกสวยมากๆ เลยล่ะครับ


ดอกซ้อน ทรงสวย สีสันสดใส คุ้มมากๆ เลยครับ


                       สำหรับว่านสี่ทิศนั้น โดยธรรมชาติเค้าไม่ได้เป็นไม้ที่ออกดอกตลอดทั้งปีนะครับ ปีนึงจะออกดอก 1 ครั้ง หรือถ้าโชคดีก็ 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นหลังจากที่เจ้าต้นนี้ดอกโรยราลงไป ทีนี้เราก็จะต้องเลี้ยงดูบำรุงเค้าไปอีกยาวหลายเดือนเลยล่ะครับ กว่าที่จะมีโอกาสได้เห็นเค้าออกดอกคราวหน้า ซึ่งฤดูกาลออกดอกของว่านสี่ทิศนั้นจะอยู่ประมาณช่วงต้นฤดูร้อน ประมาณนั้น

                      และบางครั้งถึงแม้ว่าจะถึงฤดูกาลออกดอกของเค้าแล้ว แต่เค้าก็อาจจะไม่ได้ออกดอกมาเองแบบง่ายๆ ด้วยนะครับ ว่านสี่ทิศบางชนิดอย่างพวกว่านสี่ทิศสายพันธุ์ต่างประเทศจะออกดอกในสภาพอากาศบ้านเราได้ยากสักหน่อย จนอาจจะต้องมีการขุดหัวขึ้นมาแช่เย็นอีก 2 เดือนเพื่อกระตุ้นการออกดอกด้วยครับ

                      แต่สำหรับเจ้าว่านสี่ทิศต้นนี้ ผมคิดว่าน่าจะออกดอกตามฤดูกาลได้โดยไม่ต้องแช่เย็นนะ เพราะเป็นว่านสี่ทิศที่ปลูกที่บ้านเรา เพราะงั้นก็น่าจะสามารถออกดอกได้ตามฤดูกาลของเค้าล่ะนะ ผมคิดแบบนั้น แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปน่ะครับ


                       ขณะที่ผมกำลังเขียนเรื่องราวอยู่นี้ เจ้าว่านสี่ทิศต้นนี้ก็หมดดอกโรยราลงไปนานแล้ว ตอนนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาในการเลี้ยงดู บำรุงให้เค้าเจริญเติบโตสมบรูณ์แข็งแรงต่อไป ซึ่งเค้าก็กำลังเจริญเติบโตสดใส ใบเขียวสดเลยทีเดียวครับ ก็หวังจริงๆ ว่าปีหน้าเค้าจะมีดอกออกมาให้ได้เห็นเองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องขุดขึ้นมาแช่เย็นก็คงจะดีไม่น้อย


แล้วพบกันใหม่ครับ

No comments :

Post a Comment