Wednesday, February 27, 2019
หม่อนม่วงกัลยา หรือหม่อนหิมาลายันแดง หม่อนผลใหญ่ รสชาติหวาน
เรื่องราวในคราวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหม่อนสายพันธุ์ หิมาลายายันแดง หรืออีกชื่อนึงก็คือหม่อนม่วงกัลยา ผมบังเอิญไปเจอร้านที่เค้าขายหม่อนชนิดนี้เห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยลองซื้อมาปลูกต้นนึง แต่ด้วยความที่ผมมีพื้นที่ปลูกไม่เยอะ เพราะงั้นก็เลยจะปลูกใส่กระถาง ซึ่งผมลองสอบถามมาแล้วว่าหม่อนชนิดนี้ปลูกใส่กระถางสามารถเลี้ยงให้ออกผลได้หรือไม่ ก็ได้คำตอบมาว่าปลูกให้ออกผลได้ ก็เลยลองดู ซึ่งผลก็ปรากฏว่าได้จริงครับ การปลูกหม่อนในกระถางสามารถเลี้ยงให้เค้าเติบโต และออกผลได้ แต่จะติดผลไม่เยอะเท่ากับการปลูกลงดินนะครับ แต่ก็พอมีให้ได้ทานบ้าง ถือว่าน่าพอใจอยู่ครับ ผมก็เลยรวบรวมภาพและเรื่องราวการปลูกมาเรียบเรียงให้ได้อ่านกันครับ
โดยในการปลูกเจ้าหม่อนต้นนี้นั้น ผมปลูกใส่กระถาง 14 นิ้ว ดินปลูกที่ใช้ก็ง่ายๆ เป็นดินถุงทั่วไป ดินใบก้ามปู ผสมกับปุ๋ยคอกและกาบมะพร้าวสับเล็ก
โดยอัตราส่วนผสมของดินก็ ดินใบก้ามปู 2 ส่วนผสมกับปุ๋ยคอก 1 ส่วน กาบมะพร้าวสับเล็ก 1 ส่วน ประมาณนี้ครับส่วนผสมของดินที่ผมใช้ปลูกหม่อนกระถางนี้
ในการปลูกต้นหม่อนนั้นแสงแดดเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตและการออกดอกออกผลของต้นหม่อนเป็นอย่างมาก ในการปลูกต้นหม่อนควรให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ ก็จะดีต่อการเจริญเติบโตของเค้าครับ
อย่างที่ผมปลูกอยู่นั้นผมปลูกอยู่บนดาดฟ้าของบ้านซึ่งเป็นจุดที่มีแดดส่องตลอดทั้งวันครับ แต่ถ้าสถานที่ปลูกของคุณนั้นไม่ได้มีแดดส่องตลอดทั้งวันล่ะก็ ผมว่าอย่างน้อยก็ควรที่จะต้องมีแดดให้เค้าได้รับในแต่ละวัน วันละไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ก้น่าจะได้อยู่ครับ แต่ถ้าสถานที่ปลูกของคุณไม่มีแดดส่องเลยล่ะก็หรือมีแดดส่องแค่วันละ 2-3 ชั่วโมง ผมว่าน้อยไปครับ ไม่เพียงพอ
ส่วนการรดน้ำ รดน้ำทุกวันวันละครั้ง ยกเว้นวันที่ฝนตกก็ไม่ต้องรด ให้เค้ากินน้ำฝนไปแทนวันนั้น
สำหรับการให้ปุ๋ย ผมจะใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 เดือนละครั้ง แต่ถ้าเป็นช่วงที่จะให้เค้าออกผล ก็จะเปลี่ยนเป็นไปให้ปุ๋ยสตูร 8-24-24 ประมาณนี้ครับ
สำหรับปัญหาในการปลูกและการดูแลต้นหม่อนนั้น ผมไม่ค่อยเจอเท่าไร เค้าเป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี ขอแค่แดดถึงน้ำถึงก็สบายครับในการปลูก
ส่วนเรื่องศัตรูพืช ที่ผมเคยเจอคือเพลี้ยแป้งที่จะมารบกวนบ้าง แต่ไม่บ่อยครับ นานๆ เจอที ซึ่งเวลาเจอก็จะฉีดน้ำไล่หรือหาพวกยากันเพลี้ยแป้งมาฉีดป้องกัน แต่อย่างที่บอกครับว่ามันไม่ได้เจอบ่อยๆ นานๆ จะเจอทีนึงครับ
แต่ที่เจอบ่อยจะเป็นนกที่มาคอยแย่งกินผลที่แก่จัดๆ ซึ่งผมไม่ค่อยอยากไปรังแกนกก็เลยปล่อยๆ ไป อยากจะมากินก็กินไป ถือว่าแบ่งๆ กัน
ในการออกผลของหม่อนนั้น คือถ้าปล่อยให้เค้าออกผลเองตามธรรมชาติมันจะไม่ค่อยแน่นอนเท่าไร บางทีเค้าก็ไม่ยอมออกผลเอง เพราะฉะนั้นถ้าจะให้เค้าออกผลก็อาจจะที่ต้องมีการกระตุ้นการออกผลของเค้าด้วยนะครับ
อย่างวิธีการที่จะทำให้ต้นหม่อนต้นนี้ของผมออกผลนั้น ผมจะใช้วิธีการเด็ดใบออกให้หมด เพื่อกระตุ้นให้เค้าแตกใบและยอดใหม่ขึ้นมา ซึ่งพอต้นหม่อนแตกยอดใหม่ออกมา เค้าจะออกผลมาพร้อมกับยอดใหม่นั้นด้วยครับ อันนี้คือวิธีการกระตุ้นให้ต้นหม่อนออกผลที่ผมใช้ ซึ่งผมว่ามันได้ผลอยู่นะ
จากในภาพนะครับ พอเราเด็ดใบเค้าออกจนหมดต้น หลายวันต่อมาเค้าจะเริ่มแตกยอดใหม่ ซึ่งพอเค้าแตกยอดใหม่ขึ้นมา ก็จะออกผลตามมาด้วยอย่างที่เห็น
แต่ด้วยความที่ต้นที่ผมปลูกนั้น ต้นมันเล็ก และปลูกในกระถางทำให้การเจริญเติบโตนั้นจำกัด โตได้ไม่เต็มที่ ก็เลยติดผลไม่เยอะเท่าไรนะครับ คือเอาไปเทียบกับการปลูกลงดินไม่ได้แน่นอนครับ ปลูกแบบลงดินให้ผลได้เยอะกว่ามากครับ แต่อย่างที่บอกว่าที่ปลูกผมน้อย มีลูกให้ได้ทานบ้างนิดๆ หน่อยๆ ผมก็พอใจแล้วครับแค่นี้
การเติบโตของผลของหม่อนนั้น ประมาณ 4 สัปดาห์หลังจากที่เค้าเริ่มติดผล ผลก็จะเริ่มทยอยแก่จัดให้เราเก็บมาทานได้แล้วล่ะครับ
ดูจากสีของผลหม่อนก็ได้นะครับ ถ้าผลสียังเขียวอยู่แสดงว่ายังอ่อน อย่าพึ่งเก็บมาทานนะครับ
รอให้ผลของหม่อนนั้นสีแดงออกเด้งเข้มเสียก่อน แบบนั้นแสดงว่าเริ่มแก่ สามารถเก็บมาทานได้แล้ว ลูกที่เข้มจัดๆ รสชาติจะหวานมากๆ ทานแล้วชื่นใจมากครับ
หม่อนหิมาลายันแดงมีขนาดผลที่ใหญ่ใช้ได้เลยครับ
จากที่ปลูกหม่อนต้นนี้มาสักระยะ ผมว่าหม่อนสายพันธุ์นี้เป็นอีกสายพันธุ์นึงที่น่าสนใจ ถ้าคุณกำลังสนใจเกี่ยวกับการปลูกหม่อน ผมว่าหม่อนสายพันธุ์นี้เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้เลยครับ
แต่อย่างที่บอกไปว่าสถานที่ปลูกของคุณนั้น ต้องมีที่ทางที่มีแสงแดดส่องย่างเต็มที่ให้เค้านะครับเพราะแสงแดดนั้นสำคัญจริงๆ ถ้าคุณมีพื้นที่น้อยก็ปลูกใส่กระถางอย่างผมก็ได้ แต่ถ้าคุณมีที่เยอะปลูกลงดินก็จะดีกว่าปลูกใส่กระถางครับ ปลูกลงดินต้นจะโตมากๆ คุ้มค่ากว่าครับ
ผมไม่ได้ขายต้นหม่อนนะครับ สำหรับท่านที่กำลังจะถามว่ามีขายมั้ย ขายเท่าไร ผมไม่ได้ขายนะ ผมก็ซื้อเค้ามาปลูกอีกทีนึงครับ
แต่สำหรับแหลงที่ขายต้นหม่อนนั้น ถ้าเป็น แถวกรุงเทพ ผมแนะนำให้มาดูที่ตลาดนัดส่วนจตุจักร ช่วงตลาดต้นไม้วัน อังคาร – วันพฤหัสนะครับ มีขายครับ มาช่วงวันพุทธตอนเช้าๆ ผมว่ากำลังดี มีร้านขายต้นหม่อนเปิดช่วงวันพุทธอยู่หลายร้าน ราคาไม่แพงครับ
แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดผมก็ไม่ทราบเลยนะครับว่ามีที่ไหนขายบ้าง ต้องขอโทษด้วยครับ
ก็ประมาณนี้ครับสำหรับเรื่องราวการปลูกต้นหม่อนม่วงกัลยา หรือหม่อนหิมาลายันแดงของผม ไม่ยากเลยครับ ไม้ชนิดนี้เลี้ยงง่าย ที่สำคัญเลยที่ต้องมีคือสถานที่ปลูกที่มีแดดส่องตลอดทั้งวัน ถ้าเค้าได้รับแดดดี ได้รับนํ้าทั่วถึง ใส่ปุ๋ยบ้าง ผมมีโอกาสได้ทานผลเค้าอย่างแน่นอนครับ แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการปลูกต้นไม้เรื่องต่อไปของเราครับ
Labels:
Himalayan Mulberry
,
Mulberry
,
ต้นหม่อน
,
หม่อนหิมาลายัน
Subscribe to:
Post Comments
(
Atom
)
No comments :
Post a Comment