ในปี 2558 นี้ ผมมีโอกาสได้เขียนและลงภาพเกี่ยวกับกล้วยไม้ช้างให้ทุกท่านได้อ่านกัน
รวมบทความนี้แล้วก็เป็น 7 บทความแล้วครับ มีทั้งกล้วยไม้ช้างส้ม ช้างแดง
ช้างพลาย ช้างชมพู หลายภาพหลายแบบมากมาย ซึ่งก็คงถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องจบเรื่องราวของกล้วยไม้ช้างในปีนี้กันเสียที
แล้วไปเริ่มการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับดอกไม้ หรือ กล้วยไม้ หรือ
ต้นไม้ชนิดอื่นบ้าง เพราะเขียนแต่เรื่องราวของกล้วยไม้ชนิดเดิมๆ หลายๆ
บทความติดกัน ผมเริ่มรู้สึกเริ่มจะเนือยๆ เสียแล้ว ทั้งๆ ที่จริงๆ
แล้วเรื่องราวของกล้วยไม้ช้างนั้นยังมีเรื่องให้เขียนอยู่อีกมากมาย และก็ยังลงภาพช้างให้ได้ชมกันไม่ครบทุกต้นเลยด้วยครับ
แต่ผมคงพอแล้วล่ะ ปีนี้เอาแค่นี้ดีกว่าแล้วปีหน้าถ้ากล้วยไม้ช้างที่บ้านผมออกดอกผมค่อยมาว่ากันใหม่
เพราะฉะนั้นผมก็เลยจะจบเรื่องราวการเขียนเกี่ยวกับกล้วยไม้ช้างไว้ที่บทความนี้ และขอลงรูปกล้วยไม้ช้างส่งท้ายสักหนึ่ง
เป็นกล้วยไม้ช้างกระสองต้น ก่อนจะลาจากเรื่องราวของกล้วยไม้ช้างในปีนี้ไป ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่านะครับ
เริ่มที่กล้วยไม้ช้างกระต้นแรกต้นในภาพข้างบนนี้ก่อนเลยแล้วกัน
เจ้าต้นนี้เมื่อตอนปีที่แล้วผมก็เคยเขียนถึงไปในบทความที่ชื่อว่า รวมภาพกล้วยไม้ช้างกระ มากันเป็นชุด ลองเข้าไปดูภาพในอดีตของเค้าเปรียบเทียบกับตอนนี้ได้ครับ ผมว่าตอนปีที่แล้วกับปีนี้เค้าเปลี่ยนแปลงไปเยอะทีเดียวครับ ต้นของเค้าโทรมลงไปมากเพราะที่ผ่านมาเค้าต้องเจอกับปัญหาเรื่องโรครบกวนค่อนข้างมากโดยเฉพาะช่วงปีที่แล้วที่ฝนตกบ่อยๆ
ใบของเค้าเน่าเสียหายต้องตัดทิ้งไปเยอะเลยครับ
แต่ถึงกล้วยไม้ต้นนี้จะเจอปัญหาโรคภัยรบกวนขนาดไหน เค้าก็ยังสามารถอดทนเอาตัวรอดมาได้จนถึงวันนี้และมีดอกให้ได้ชมกันอย่างที่เห็น ถึงดอกจะไม่มากมายอะไรมีแค่ช่อเดียวก็เถอะ ยังไงก็ดีกว่าตายหรือไม่มีดอกออกมาเลยสักดอกล่ะครับ ได้ขนาดนี้ผมว่าโชคดีมากแล้วครับจากเกือบตายแล้วรอดมาได้จนมีดอกให้ได้ชมกันเนี่ย
ยังเป็นภาพต้นเดิมอยู่นะครับแต่อันนี้เป็นภาพที่ถ่ายคนละวันกับรูปที่ลงไปด้านบนภาพตอนนี้เป็นตอนที่ดอกของเค้าบานเต็มที่แล้วครับ
ถ้าไม่มองเรื่องสภาพของลำต้นและใบที่โทรมมาก ดอกของเจ้าต้นนี้ผมว่าสวยเลยนะครับ ดอกสดใสสะอาดตาดีแถมกลิ่นยังหอมเย็นๆ ชื่นใจเลยทีเดียวครับ
สำหรับกล้วยไม้ช้างกระต้นแรกนี้ก็ขอลงภาพเท่านี้นี้แล้วกันครับ เราเปลี่ยนไปดูต้นต่อไปกันบ้างดีกว่าว่าจะเป็นยังไง
เจ้ากล้วยไม้ช้างกระต้นที่สองนี้นั้นผมว่าลักษณะดอกคล้ายๆ กับต้นแรก คือเป็นช้างกระที่มีลายกระไม่เยอะเท่าไร แต่ต้นนี้ลายจะน้อยกว่าต้นแรกหน่อยนึงแต่โดยรวมผมว่าฟอร์มใกล้เคียงกันเลยทีเดียวครับยังกะเป็นพี่น้องกันเลยสองต้นนี้
เจ้าต้นนี้มีสภาพต้นที่สมบรูณ์กว่าต้นแรก ช่อดอกจะยาวกว่า ส่วนของลำต้นใบรากก็ดีกว่าสดกว่า ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคมารบกวนสักเท่าไร ทั้งๆ ที่ทั้งสองต้นเลี้ยงอยู่ด้วยกันเลี้ยงเหมือนๆ กันแขวนอยู่ข้างๆ กันเลยด้วยซํ้า ต้นนึงสมบรูณ์ดี แต่อีกต้นกลับเป็นโรคเน่าใบเสียรากเสียจนเกือบตายซะอย่างงั้นทั้งๆ ที่ก็ดูแลไม่ต่างกันเลยสักนิดซึ่งมันทำให้ผมเกิดความรู้สึกหนักใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ แบบนี้
ไม่ใช่ว่าในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ช้างนั้นผมปล่อยปะละเลยหรือไม่ตั้งใจดูแลนะครับกล้วยไมถึงได้ป่วย ผมพยายามดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เฝ้าติดตามอาการเดินดูต้นไม้อยู่ตลอดแล้ว แต่ปัญหาก็ยังมีมาให้ได้เจออยู่เรื่อยๆ ยังมีเกิดโรคกับกล้วยไม้รบกวนอยู่ไม่เคยขาดหน้าฝนก็โรคเน่า หน้าหนาวก็ไรแดงมากัดกิน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมจะต้องสู้ต่อไป
ผมนำภาพกล้วยไม้ช้างกระสองต้นนี้มาลงในปีนี้ส่วนนึงก็เพื่อที่จะเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำเพราะไม่รู้ว่าปีหน้าเค้าจะยังอยู่มั้ยอาจจะตายลงเสียในหน้าฝนปีนี้ก็เป็นได้ แต่อย่างน้อยวันนึงถ้าเค้าตายไปเรื่องราวของเค้าก็ยังจะอยู่ต่อไปในบล็อกแห่งนี้ ยังมีที่ให้ได้นึกถึงให้ได้ดูภาพเก่าและเรื่องราวเค้าอยูเสมอ ตราบเท่าที่บล็อกแห่งนี้ยังอยู่ไม่โดนลบหายไปไหน ซึ่งผมคงไม่ลบบล็อกที่เขียนมากับมือทิ้งแน่ๆ ครับ
เรื่องราวที่ผมเขียนในวันนี้นั้นก็ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรมากมายออกแนวเขียนไปเรื่อยบ่นไปเรื่อย เพราะเรื่องราวของกล้วยไม้ช้างนั้นผมเขียนไปเยอะมากแล้วถ้านับรวมในบล็อกแห่งนี้คงมีประมาณสิบกว่าบทความแล้วล่ะมั้งเกี่ยวกับกล้วยไม้ช้างที่ผมได้ลงไปในรอบปีสองปีที่ผ่านมา ซึ่งมันเยอะจนผมนึกไม่ออกแล้วว่าจะเขียนอะไรถึงพวกเค้าได้อีก ซึ่งถ้าปีหน้าถึงฤดูกาลของกล้วยไม้ช้างออกดอกผมก็คงจะหยิบยกมาเขียนถึงอีกนั่นแหละครับเพราะกล้วยไม้ช้างกับตัวผมนั้นก็คงจะต้องเลี้ยงดูกันต่อไป ขอบคุณทุกท่านจริงๆ ครับที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วคราวหน้าเรามาพบกันใหม่กับเรื่องราวของกล้วยไม้ชนิดอื่นกันบ้างส่วนจะเป็นกล้วยไม้อะไรนั้น ผมขอเวลาเลือกรูปก่อนแล้วกันครับช่วงนี้ถ่ายรูปเอาไว้ค่อนข้างเยอะและหลากหลายมากเลยทีเดียวยังเลือกไม่ได้เลยว่าจะหยิบอันไหนมาเขียนถึงดี ถ้าเลือกได้เมื่อไรจะเอามาเขียนลงให้ได้ชมกันทันทีเลยครับ
วันนี้ผมขอลาไปแต่เพียงเท่านี้แล้วกันนะครับ ขอบคุณมากครับที่ผ่านเข้ามาในบล็อกเล็กๆ ของผม แล้วพบกันใหม่ครับ
No comments :
Post a Comment