เริ่มต้นเลี้ยง cactus and succulent แบบมือใหม่ กับเรื่องราวไม้บ้านๆ ชุดหัดปลูกของผม

    ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่า ในเรื่องราวของ cactus & succulent หรือพวก กระบองเพชร ไม้อวบน้ำนั้นผมเป็นมือใหม่ที่พึ่งจะหันมาสนใจได้ไม่นานนัก ในเรื่องของความรู้ความเข้าใจจึงยังมีไม่มากแค่พอจะรู้บ้างเล็กๆ น้อยๆ พอจะจำได้บ้างว่าตัวไหนชื่ออะไรแต่ให้เจาะลึกถึงลักษณะเฉพาะ หรือความพิเศษของแต่ละสายพันธุ์นั้นผมคงตอบไม่ค่อยได้ แต่ก็เริ่มค่อยๆ เรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่หันมาสนใจพวกไม้เหล่านี้นั้น ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่สนุกดี แคคตัสและไม้อวบน้ำมีสายพันธุ์ต่างๆ มากมายนับไม้ถ้วนมีรูปแบบรูปทรงที่หลากหลาย แคคตัสหลายๆ ชนิดนั้นมีดอกที่สวยมาก ไม้อวบน้ำหลายๆ ชนิดก็มีรูปทรงหรือว่าโขดที่สวยงามโดดเด่น  ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการที่มีแหล่งให้ได้จับจ่ายซื้อขายมากมายทั้งในเน็ตหรือจะไปที่จตุจักร สนามหลวง 2 หรือตลาดต้นไม้ที่ไหนก็มีร้านให้เลือกซื้ออยู่หลายต่อหลายร้าน บางร้านเราสามารถที่จะสอบถามพูดคุยขอความรู้กันได้อย่างเป็นกันเองกับผู้ขายเพราะฉะนั้นจึงเป็นอะไรที่ง่ายมากที่จะเข้าถึงและเรียนรู้ในเรื่องราวของเจ้าไม้ทนแล้งเหล่านี้ การเปิดเรื่องราวในคราวนี้ ผมจึงขอนำเสนอในเรื่องราวของแคคตัสเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมเลี้ยงไว้เป็นสายพันธุ์พื้นๆ ทั่วๆ ไป ที่นักเลี้ยงส่วนใหญ่ก็คงจะมีกันหมดแล้ว แต่ผมขอเอามาโชว์สักหน่อยก็แล้วกัน ไปดูกันเลยครับ

      
    เจ้าต้นแรกนี้นั้นเป็นแคคตัสยิมโน  gymnocalycium ที่ผมพึ่งจะซื้อมาในราคาไม่แพงเท่าไร แถมตอนที่ซื้อมานั้นเจ้าต้นนี้กำลังมีตุ่มดอกแทงขึ้นมาพอดีที่หยิบเค้าติดมือมาก็เพราะเหตุผลนี้นี่แหละ ซื้อเพราะอยากจะดูดอกว่างั้น ตอนนี้ก็ดอกบานเรียบร้อยไปแล้วตามรูป ดอกสีขาวสวยดีเหมือนกัน 

    
    ยิมโนแคคตัส เป็นสายพันธุ์ที่ธรรมดาหาง่ายราคาถูกที่เหมาะแก่การซื้อมาเลี้ยงไว้เล่นๆ แบบไม่คิดมากเป็นอย่างยิ่ง แถมผมยังเคยอ่านเจอว่าแคคตัสสายพันธุ์ยิมโนนั้นออกดอกบ่อย ออกดอกง่าย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกความน่าสนใจนึงที่เป็นส่วนให้สายพันธุ์นี้ค่อนข้างน่าหามาเลี้ยงสะสมมากเลยครับ

 

 
    ต้นต่อมาเป็น  Gymnocalycium variegate ยิมโนหัวสีแดงกราฟบนตอต้นนี้ซื้อมาราคาประมาณร้อยกว่าบาท ขนาดหัวเอาไม้บรรทัดลองทาบวัดดูได้ประมาณ 3 ซม นิดๆ กำลังน่ารัก เจ้าต้นนี้ผมชอบตรงสีที่แดงดี และก็กำลังจะมีดอกเหมือนกับต้นข้างบน ถ้าบังเอิญว่าบานทันกันผมคิดเอาไว้ว่าจะลองจับมาผสมเกษรกันดู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะผสมแล้วออกมาเป็นยังไงเหมือนกันครับติดหรือไม่ติดต้องไปดูกันอีกที

     
     มาที่ต้นนี้เป็น astrophytum asterias ซื้อมาตอนกำลังมีดอกอีกเหมือนกัน ราคาที่ซื้อมานั้นก็ไม่แพงอีกนั่นแหละ ประมาณสามสิบบาท สำหรับสายพันธุ์ astrophytum นั้นผมชอบเป็นพิเศษด้วยความที่เค้า มีรูปทรงและลวดลายที่เตะตาผม เป็นกระบองเพชรไม่มีหนาม แต่ที่ผิวจะมีปุยขาวๆ ดูแล้วผมว่าแปลกดี ที่ชอบมากอีกอย่างก็คือดอกของเค้าที่ใหญ่มาก สีเหลืองสวยงามถูกใจผมเป็นอย่างยิ่ง เจ้าต้นนี้ดอกบานอยู่สองวันแล้วก็ร่วงโรยไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีโอกาสได้เห็นดอกอีกตอนไหน ตอนนี้ผมก็เลยคิดอยู่ว่าจะไปหาซื้อมาเพิ่มอีกเยอะๆ จะได้มีโอกาสได้เห็นดอกเค้าอีกเยอะๆ บ่อยๆ ต่อเนื่องไม่ต้องรอนาน ซื้อมาแบบว่าเลี้ยงให้สลับกันออกดอกกันไปเลย อะไรแบบนั้น

    
     ต้นต่อไปเป็น mammillaria schiedeana แมมขนนกเหลือง ต้นนี้ซื้อมาถูกอีกเช่นเคย มือใหม่อย่างผมก็ต้องเริ่มจากถูกๆ นี่แหละเอาไว้เชี่ยวชาญกว่านี้ค่อยไล่ไปเก็บไม้ราคาที่สูงขึ้นกว่านี้ ว่ากันที่เจ้าแมมขนนกเหลืองต้นนี้กันดีกว่า เจ้าต้นนี้ ออกดอกต่อเนื่องดีจริงๆ ผมเห็นดอกเค้าออกมาเรื่อยๆ นานเกือบสองเดือนและยังไม่หมดดอกเลยดอกเก่าที่โรยไปดอกใหม่ก็ค่อยๆ ทยอยออกมาให้ได้ดูกันไม่จบ แถมเจ้าต้นนี้ยังติดฝักเก่งมาก ผมลองเก็บฝักที่แก่เอาเมล็ดมาเพาะก็ขึ้นดีเหมือนกัน แต่จะรอดไปได้จนโตมั้ยนั้นผมก็ไม่แน่ใจเพราะผมไม่มีความรู้เรื่องการเพาะเมล็ดแคคตัสสักเท่าไหร่

    
     แมมต้นต่อไปเป็น mammillaria karwinskiana  ต้นนี้มีความแค้นอะไรกับผมก็ไม่รู้ มีเหตุให้โดนหนามของเค้าตำมือบ่อยมาก แถมตำเจ็บเสียด้วยสิ แต่ดอกน่ารักดีเหมือนกันออกดอกต่อเนื่องเหมือนกับเจ้าต้นข้างบนนั่นแหละ

    
    Mammillaria bucareliensis แมมต้นนี้เป็นแมมต้นแรกที่ผมซื้อซื้อมาก่อนเจ้าสองต้นข้างบนนานแล้วแต่ปัจจุบันก็ยังมีดอกให้ได้เห็นอยู่ ตอนที่ซื้อมานั้นจำได้ว่าซื้อมา 10 บาท ตอนนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่างไปยืนๆ ด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าแผงขายกระบองเพชร แล้วมือก็หยิบมาแบบไม่คิดอะไร หยิบมั่วนั่นแหละ

   
     แมมต้นสุดท้ายเป็นแมม mammillaria carmenae ต้นนี้ผมชอบหนามของเค้าแฮะ ผมเคยเห็นรูปตอนโตของเค้าแล้วรู้สึกชอบมากตอนเค้าโตแล้วทรงเป็นกอดูแล้วสวยดี ถ้าผมจำชื่อเค้ามาไม่ผิดนะ แต่ถ้าจำชื่อมาผิดก็คงต้องไปหาใหม่เพราะผมอยากได้สายพันธุ์นี้ ในส่วนของราคาเจ้าต้นนี้นั้น ได้มาในราคา 10 บาท ครับ

    
    ลงรูปแคคตัสมาหลายต้นแล้วรูปต่อไปขอเปลี่ยนไปเป็นพวก succulent หรือว่า ไม้อวบน้ำบ้างดีกว่า เริ่มจากนี่เลย บัวแก้วด่าง เป็นไม้พื้นฐานที่ราคาไม่แพง ต้นนี้ผมซื้อมาจากจตุจักรครับ พวกบัวแก้วนี่เลี้ยงง่ายแถมแตกกอก็เก่งเป็นไม้อวบน้ำที่ผมว่ามือใหม่น่าจะเลี้ยงได้สบายๆ อึดทน ตายยากครับ

    
    ต่อไปก็เป็น haworthia truncate หรือที่เรียกกันว่า ม้าตัด เจ้าต้นนี้ ผมซื้อมาราคา 70 บาทครับ เป็นไม้ที่ผมไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับสายพันธุ์ของเค้าสักเท่าไร ซื้อมาเพราะเห็นว่าแปลกดี เคยสอบถามการเลี้ยงเค้าบอกว่าเลี้ยงแบบเลี้ยงกระบองเพชรเลยก็ได้ไม่มีปัญหา ผมก็เลยยึดตามนั้น รดน้ำประมาณอาทิตย์ละครั้ง เลี้ยงแบบให้โดนแดดช่วงเช้าถึงสาย ยังไม่ค่อยจะเห็นการเจริญเติบโตเท่าไรเพราะพึ่งได้มาเมื่อเดือนที่แล้วคงต้องรอดูไปอีกสักพัก

    
    เขียนมากชักจะมึนแล้วแล้วสิ งั้นไปที่ต้นนี้กันเลย ต้นนี้เป็น haworthia sp. ต้นนี้ผมไม่ทราบชื่อหลังเหมือนกันครับ ผมเลือกเจ้าต้นนี้มาเพราะชอบลักษณะของต้นผมว่าน่ารักดีในส่วนของราคานั้นก็ไม่แพงนั่นแหละครับ

   
     จะเห็นได้ว่าไม้ที่ผมนำมาลงทั้งหมดนั้นเป็นไม้ที่ราคาถูกมากเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ซื้อมาแล้วต่อให้เลี้ยงไม่รอดเลี้ยงแล้วตายก็ไม่เสียดายเงินเท่าไร ถ้าท่านกำลังสนใจที่จะเลี้ยงแคคตัส หรือไม้อวบน้ำต่างๆ ลองเลยครับการเลี้ยงไม้พวกนี้ ถ้าเลี้ยงในปริมาณที่ไม่เยอะเลี้ยงแค่ไม่กี่ต้นแล้วนั้นมันไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ที่ทางอะไรมากมาย เลี้ยงไว้บนระเบียงบนโต๊ะริมหน้าต่างก็สามารถที่จะทำได้ แล้วก็รดน้ำให้เค้าสักอาทิตย์ละครั้ง หรือไม่ก็สังเกตุว่าดินเค้าแห้งรึเปล่าถ้าดินแห้งก็รดน้ำแต่ถ้าดินหรือเครื่องปลูกยังชื้นก็ไม่ต้องรด กระบองเพชรนั้นชอบแดดถ้าเป็นไปได้ก็ให้เค้าโดนแดดบ้างเป็นแดดช่วงเช้าถึงสายก็ดีครับแต่ถ้าเอาไปตากแดดตอนเที่ยงหรือตอนบ่ายก็ต้องระวังเค้าจะไหม้ให้ดีนะครับ เพราะแดดบ่ายแดดกลางวันนั้นแรงมากถ้าคุณนำกระบองเพชรไปออกแดดแรงๆ ช่วงนั้นแบบฉับพลันทันทีโดยที่ไม่มีการปรับแสงก่อนเค้าจะมีอาการไหม้เอาได้ง่ายๆ อันนี้ต้องระวังให้ดี ส่วนการให้ปุ๋ยนั้น ผมว่าใส่ปุ๋ย ออสโมโค้ท แบบสามเดือนครั้งก็ได้ครับแค่นั้นก็เพียงพอที่จะให้เค้าได้รับสารอาหารที่พอเพียงแล้ว ก็ใส่ปุ๋ยในอัตราส่วนที่ไม่เยอะเกินไปสักกระถางละ ครึ่งช้อนชาก็น่าจะโอเคแล้วครับ ส่วนเรื่องราวอื่นๆ ในส่วนของการปลูกเลี้ยงเดี๋ยวจะไปว่ากันต่อในครั้งต่อไปๆ ก็แล้วกันครับ

    
     วันนี้ก็เขียนมาพอสมควรแล้ว จริงๆ แล้วยังมีแคคตัสอีกเยอะมากที่ยังไม่ได้เขียนถึง แต่เนื่องด้วยความยาวที่ถ้าจะเขียนถึงหมดทุกต้นที่ผมมี ผมคิดว่ามันจะยาวเกินไปคงต้องตัดไปเขียนถึงต่อในโอกาสหน้า เพราะฉะนั้นผมคงจะต้องขอตัดจบเรื่องราวแต่เพียงเท่านี้ก่อนเอาไว้พบกันใหม่ในโอกาสต่อไปก็แล้วกันนะครับ

-----------------------------------------------------------
     อัพเดทเพิ่มเติมนะครับ ตอนนี้ผมได้มีการเปิดบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ cactus กระบองเพชร โดยเฉพาะ ขึ้นมาอีกหนึ่งบล็อกแล้วนะครับ
     ซึ่งในบล็อกนั้นจะมีแต่เรื่องราวของ การปลูกแคคตัส เป็นหลัก โดยเนื้อหาในบล็อกนั้นจะเป็นเนื้อหาใหม่ทั้งหมดไม่มีการเอาบทความจากบล็อกนี้ไปลงซํ้าแต่อย่างใด  เพื่อนๆ ที่ชอบในการปลูกแคคตัส และอยากจะอ่านเรื่องราวที่หลากหลายของไม้ประเภทนี้ สามารถที่จะติดตามได้ในลิงก์ ที่จะลงไว้ด้านล่างนี้นะครับ รับรองได้เลยว่าในบล็อกนั้น ผมจะมีการลงรูปภาพและเรื่องราวเกี่ยวกับการปลูกเลี้ยงและวิธีการดูแลแคคตัสอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกท่านที่ชอบอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวกับกระบองเพชรทั้งได้อ่านอย่างจุใจแน่นอนครับ

คลิกเลย http://chowcactus.blogspot.com

facebook fanpage ก็มีนะครับ สามารถกดไลค์เพื่อติดตามข่าวสาร หรือจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับแคคตัส กระบองเพชร ไม้อวบนํ้า cactus and succulent หรือจะคุยเรื่องต้นไม้อื่นๆ ก็ได้นะครับผมยินดี ไปทักทายกันได้ที่

คลิกเลย https://www.facebook.com/chowcactus

------------------------------------------------------------   
      ส่วนท่านที่ชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับกล้วยไม้ ไม้หัว ดอกไม้ หรือไม่อื่นๆ บล็อก Garden7day แห่งนี้ ก็ยังลงบทความใหม่ๆ เหมือนเดิมนะครับไม่ได้ทิ้งไปไหน ยังลงบทความเกี่ยวกับการปลูกกล้วยไม้ และรูปภาพดอกไม้ให้ทุกท่านได้ชมกันเป็นปรกติไม่มีเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ ผมแค่แยกเฉพาะเรื่องราวของแคคตัสไปเขียนอีกบล็อกนึงแค่นั้น ส่วนเรื่องราวอื่นๆ ก็ยังอยู่ที่นี่แหละครับเพราะที่นี่คือบล็อกหลักของผม ผมเริ่มต้นจากบล็อกแห่งนี้ผมก็ยังจะอยู่กับที่นี่ไปตลอดนั่นแหละครับ

ขอบคุณทุกท่านมากครับ